ปวดหลังคืออะไร?


ปวดหลังเป็นอาการที่ทุกคนสามารถประสบได้ การปวดหลังอาจเกิดได้จากการทำงานหนัก การบิดเกร็ง ตกขากรรไกร หรือจากสภาพแวดล้อมที่มีส่วนสร้างแรงกดทับบนหลัง เช่น นั่งเก้าอี้ที่ไม่สะดวกสบาย การยกของหนักๆ การงอหลังและอื่นๆ

สาเหตุของโรคปวดหลัง


สาเหตุของโรคปวดหลังอาจเป็นมาจากหลายปัจจัย อาทิ ปัจจัยเชิงพยาธิสภาพ ปัจจัยโภชนาการและสุขภาพ และปัจจัยสภาพแวดล้อม เช่น หนังสตรีที่มีการเกิดอาการนูบหนีบ ทำงานบนโต๊ะที่ไม่สะดวกสบายเป็นต้น อาการปวดหลังดวงตีนอาจเกิดขึ้นเนื่องจากปัจจัยที่ซับซ้อนเช่น โรคหลอดเลือดสมองจากการเลือดออก โรคไขกระดูกพรุน หรือรูปแบบการปวดซีดๆ

ปัจจัยเสี่ยงที่จะเป็นโรค ปวดหลัง


มีปัจจัยหลายอย่างที่ร่างกายของคุณอาจตอบสนองสูงพอที่จะทำให้เกิดโรคปวดหลังได้. บางครั้งผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงสูงในการเป็นโรคปวดหลังคือ ผู้ที่ทำงานโดยเฉพาะกลุ่ม ผู้ที่เคลื่อนไหวน้อย ผู้สูงวัย ผู้ที่มีแนวโน้มกลุ่มเลือดอ้วนมาก และผู้ที่กำลังรักษาโรคความดันเลือดสูง ผู้ที่สูบบุหรี่ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงอีกตัวหนึ่ง

อาการของโรคปวดหลัง


อาการของโรคปวดหลังไม่ได้หมายถึงสิ่งเดียว หากต้องการประเมินระดับของอาการไม่ว่าจะเป็นของโรคปวดหลังเฉพาะตัวแต่ละรายให้ดูกว่าภาพรวมหน้าจอที่เกี่ยวข้องด้วนเช่นกัน. อาการของโรคปวดหลังจะแบ่งออกเป็น อาการปวดหลังแบบเฉียบขวางและอาการปวดหลังเรื้อรัง. อาการปวดแบ่งออกเป็นชนิดต่างๆ เช่น ปวดหลังส่วนล่าง ปวดหลังส่วนบน หรือปวดหลังเหมือนมีดวงขวานขึ้นมาทีหลัง โดยต้องมีการตรวจสอบอาการอย่างละเอียด ๆ เพื่อระบุอาการและประเมินระดับความรุนแรง

วิธีการวินิจฉัยโรคปวดหลัง


แพทย์จะทำการสอบถามอาการปวดของคุณและประเมินความเสี่ยงของโรคปวดหลังประเภทต่างๆ, หากในกรณีที่แพทย์ต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติม คลินิกการเหมือนพยาบาลจะนำเอกสารและเบาหวานของคุณมาวิเคราะห์ อาจจะมีเครื่องมือช่วยเหลืออื่น ๆ เช่น X-Ray, การตรวจประสาทของขาหรือมือเพื่อให้แพทย์เข้าใจว่าอาการที่เกิดขึ้นเป็นไปอย่างไร

วิธีการรักษาโรคปวดหลัง


วิธีการรักษาโรคปวดหลัง ขึ้นอยู่กับอาการว่ารุนแรงเพียงใด โดยแพทย์จะใช้กระบวนการรักษาเป็นอย่างหนึ่งต่อไปนี้:

การดูแลด้วยตนเอง


การดูแลด้วยตนเองเป็นวิธีการสำหรับลดปริมาณอาการและป้องกันการกลับมาเกิดอีกครั้ง เช่น การฝึกประสาทและประคับประคอง, การนับสูตรออกกำลังกายอย่างไม่เหมือนกัน เช่น ผักดองผสมฝิ่นกำลังพอดี การนั่งและการยืนให้ถูกต้อง โดยการปรับแต่งหรือควบคุมพฤติกรรมของผู้ป่วย.

ยา


บางครั้งอาจจะต้องรับประทานยาในการบรรเทาอาการของโรคปวดหลัง เช่น ยาแก้ปวด, ยาแก้อักเสบ และยาแก้ปวดต่างๆ


ฉาก


การแขวนโล่งอาจช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้ โดยมีกรณีที่เป็นไปได้ว่า เมื่อบริเวณข้อต่อชายคาเหน็บไม่แข็งแรงพอช่วยรับน้ำหนักที่กำลังนับถือได้เรืองยอดและลดการขับไล่ของกระดูก การใช้กายภาพบำบัด จะถูกต้องและส่วนนี้หลายๆคนก็ต้องการความช่วยเหลืออยู่ในการรักษาโรคปวดหลัง

การผ่าตัด


การผ่าตัดอาจจะเป็นการรักษาสุดท้าย โดยอาจจะแก้ไขปัญหาเชิงกายภาพสำหรับผู้ที่มีภาวะสั้นเท้า หรือเคล็ดลับสำหรับผู้ป่วยที่โดยเฉพาะเช่นอัปเทียะปลีกแรงของไตรกีฬากอล์ฟโดยการตัดข้อเข่า หรือการทำการผ่าตัดที่อาจจะใช้เพื่อปรับปรุงโรคปวดหลังตามความเหมาะสม เช่น มีการผ่าเท้าของข้อเข่าในการปรับแต่งข้อเข่าเพื่อให้มันตรง.

การป้องกันโรคปวดหลัง


มีวิธีการป้องกันโรคปวดหลังไม่ให้กลับมาเกิดอีกครั้ง หากคุณต้องทำงานในด้านเดียวกันหลายวันติดต่อการงานหนัก คุณควรพยายามตั้งค่าและปรับจำนวนการทำงานโดยหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด. นอกจากนี้คุณยังต้องติดตามงานของคุณและตรวจสอบให้แน่ใจว่า ขอบเขตการทำงานสูงพอที่จะประสบความสำเร็จโดยไม่ต้องดึงเสริมที่ตัวคุณเอง. แต่ก็เหมาะสมที่ว่าทุกคนจะควรใช้ชีวิตที่มีคุณภาพให้เหมาะสม เช่น การฝึกการเข้าร่วมกีฬารับน้ำหนักเบาบางวันนึง หรือการออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาทีที่จะช่วยเสริมสร้างตัวคุณนั้นลงไปด้วย. ผู้ใช้งานทุกคนควรรักษาการรับประทานอาหารเพื่อรักษาสุขภาพให้สมบูรณ์และรับประทานอาหารเฉลี่ย 5 – 6 มื้อเป็นประจำ เพื่อให้มีการส่งเสริมสุขภาพที่ดีของร่างกายและแม้กระทั่งการเฉลี่ยความดันโลหิตของร่างกาย.

ผู้อ่านสามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในชีวิตประจำวันและเข้าใจถึงปัจจัยการปะทองเสี่ยงที่จะเป็นโรคปวดหลังได้อย่างถูกต้อง โรคปวดหลังเป็นโรคที่สามารถป้องกันและรักษาได้ตั้งแต่ระยะแรกๆช่วงเวลาที่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม คุณสามารถลดการเข้าถึงโรคปวดหลังได้ด้วยการดูแลรักษาร่างกายหลังการออกกำลังกาย การรักษาสมดุล และการอยู่กับรูปแบบการใช้ชีวิตที่เหมาะสม.